มะเร็งปากมดลูก

มะเร็งปากมดลูกสาวๆรู้รึเปล่าคะพวกเรามีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งได้ทุกคนเลยนะ   จากสถิติของสถาบันมะเร็งแห่งชาติมีผู้หญิงไทยป่วยเป็นมะเร็งปากมดลูกเฉลี่ยปีละ 6,000-8,000 คน หรือเฉลี่ยวันละ 17 คน โดยพบมากเป็นอัดดับ 2 ของมะเร็งในผู้หญิงไทย รองจากมะเร็งเต้านม สิ่งน่ากลัวที่สุดคือ การไม่ทราบว่าตัวเองติดเชื้อ เนื่องจากตัวเชื้อใช้ระยะเวลานานในการก่อตัวเป็นเนื้อร้ายและกว่าจะรู้ตัวก็สายเกินไป ดั้งนั้น BeautyToBook จึงได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับโรคมะเร็จปากมดลูกมาเพื่อให้สาวๆรู้จักกับมันมากขึ้นสาเหตุการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูกสาเหตุของโรคนี้คือเชื้อไวรัสฮิวแมนปาปิโลม่า ( Human papillomavirus) หรือ เฮชพีวี (HPV) ชนิดที่ 16 และ 18 ซึ่งสามารถแพร่ผ่านการมีเพศสัมพันธ์ได้ เมื่อผู้หญิงได้รับเชื้อ ร่างกายอาจจะกำจัดเชื้อบางส่วนออกไปได้ แต่เชื้อบางส่วนก็เกิดการกลายพันธ์ุจนทำให้ปากมดลูกเกิดอาการติดเชื้อและพัฒนาเป็นเชื้อมะเร็งในที่สุดปัจจัยเสี่ยง● การเปลี่ยนคู่นอนบ่อยๆ หรือมีคู่นอนมากกว่าหนึ่งคน● โรคมะเร็งปากมกลูกมักพบมากในผู้หญิงอายุ 30-40 ปีขึ้นไป● การมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย● เป็นผู้มีภูมิคุ้มกันต่ำ● เป็นผู้ที่เคยได้รับการวินิฉัยว่าเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STD) เช่น ซิฟิลิส หนองใน เริม เอสด์ เป็นต้น● สูบบุรี่● มีบุตรมากและคลอดลูกมากกว่า 3 ครั้งอาการของโรค● มีเลือดออกทางช่อคลอดหลังมีเพศสัมพันธ์● ประจำเดือนมานานกว่าปกติ และมีเลือดออกกะปริบกะปรอยระหว่างรอบเดือน● ตกขาวผิดปกติ เช่นมีสีแปลก ตกขาวเป็นมูก มีหนอง หรือเลือดเจือปน● เบื่ออาหาร น้ำหนักลด● ในรายที่มีอาการลุกลามอาจะพบอาการขับถ่ายลำบาก มีเลือดปน และมีอาการขาบวมการป้องกันมะเร็งปากมดลูก1. กลุ่มผู้มีอายุ 9-26 ที่ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ คนในกลุ่มนี้ถือเป็นผู้มีความเสี่ยงน้อยและสามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ HPV2. กลุ่มผู้มีอายุน้อยกว่า 30 ปี เมื่อมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก ควรเข้ารับการตรวจภายใน 3 ปี หลังจากมีเพศสัมพันธ์ หรือเริ่มตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเมื่ออายุ 21 ปีเป็นต้นไปเป็นประจำทุกปี3. กลุ่มผู้มีอายุ 30 ปีขึ้นไปสาวๆในกลุ่มนี้จะมีการตรวจค้ดกรองมะเร็งปากมดลูกเพื่อตรวจความผิดปกติของเซลล์เนื้อเยื่อในระหว่างการตรวจภายใน เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงที่จะมีไวรัส HPV อยู่ค่ะการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกปัจจุบันมีวิธีการตรวจคัดกรองอยู่ 3 วิธีให้สาวๆได้เลือก ดั้งนี้ค่ะ1. ตรวจด้วยวิธีทางเซลล์วิทยา หรือ แปปเสมียร์ (Pap Smear) เป็นการตรวจที่ราคาไม่สูง และมีความแม่นยำอยู่ที่ 50% โดยแพทย์จะทำการป้ายเซลล์จากปากมดลูกเพื่อนำไปตรวจในห้องแล๊ป แล้วจะแจ้งผลให้ทราบในภายหลัง2. ตรวจด้วยวิธีตินแพร๊พ (Thinprep) ได้รับการพัฒนามาจากการตรวจแบบแปปเสมียร์ โดยเก็บตัวอย่างเยื่อบุเซลล์มดลูกลงไปในน้ำยาตินแพร็พ ซึ่งวิธีการตรวจนี้ให้ผลที่แม่นยำกว่า 90-95%3. ตรวจด้วยวิธีตินแพร๊พ + การตรวจหาเชื้อ HPV (Thinprep + HPV DNA Test) เป็นวิธีการตรวจที่ได้ชื่อว่ามีประสิทธิภาพที่สุดในขณะนี้ เพราะมีการตรวจลึกถึงดีเอ็นเอของไวรัสวว่ามีความเกี่ยวข้องไวรัส HPV ชนิดที่ 16และ 18 รึเปล่า ถ้าไม่มีสาวๆก็สามารถมั่นใจได้ว่าในระยะเวลา 1-2 ปีนี้ ความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งปากมดลูกของเราจะต่ำมากมะเร็งปากมดลูกสามารถป้องกันได้ด้วยการหลีกเลี่ยงมีเพศสัมพันธ์หลายคู่นอนและป้องกันด้วยการสวมถุงยางอนามัยทุกครั้ง งดสูบบุรี่และออกำลังกายอย่าสม่ำเสมอ เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน  สังเกตความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับร่างกาย อย่างอาการตกขาวผิดปกติและมีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ หากมีอาการเหล่านี้ควรมาพบแพทย์เพื่อตรวจเช็ค และสาวๆทุกคนควรได้รับการตรวจภายในอย่างน้อยปีละครั้งเพื่อลดความเสี่ยงค่ะ

ดูเพิ่มเติม
ตัวกรอง
ทำเลที่ตั้ง
ค้นหาทำเลยอดนิยม

ราคา
ราคา
ระดับดาว
ระดับดาว
ยอดนิยม
ตัวกรองยอดนิยม :
2